การจัดการเรียนรู้แบบโครงงานเป็นการจัดการเรียนการสอนที่ยึดผู้เรียนผู้เรียนเป็นสำคัญ มีการบูรณาการในรายวิชาต่างๆ ส่งเสริมให้ผู้เรียนสามารถพัฒนาสมรรถนะ ความรู้ และทักษะ ตามธรรมชาติและเต็มตามศักยภาพ เพื่อการดำรงชีวิตอย่างมีความสุข
สำหรับเทคนิค D-P-P สู่การจัดการเรียนรู้แบบโครงงานนี้ ผู้จัดทำได้นำประสบการณ์ที่ได้จากการสอนวิชาโครงงานวิทยาศาสตร์ในโรงเรียน และจากการเป็นที่ปรึกษาของชุมนุมโครงงานวิทยาศาสตร์สำหรับการแข่งขัน มานานกว่า 20 ปี โดยผู้จัดทำได้ศึกษา ออกแบบ ทดลองใช้ เทคนิควิธีต่างๆ แล้วนำมาวิเคราะห์ สรุปเป็นเทคนิคที่เหมาะสมกับการทำโครงงานวิทยาศาสตร์ ที่จะทำให้เกิดความภาคภูมิใจแก่นักเรียนรวมทั้งองค์กร
D (Do) คือ ขั้นแรกเมื่อนักเรียนคิดที่จะทำโครงงาน
เทคนิคที่นำมาใช้เริ่มต้น ด้วยการสนทนา
(Discussion) เพื่อศึกษาแนวคิดพื้นฐานความรู้ และความสนใจของนักเรียน มีการอภิปราย (Debate) ควบคู่ไปด้วย เพื่อกระตุ้นให้นักเรียนมีการใช้ความคิดขั้นสูง มีการคิดสร้างสรรค์
รวมทั้งการแสดงออกถึงความตระหนักในด้านต่างๆ
การคำนึงถึงผลกระทบที่มาจากการเปลี่ยนแปลง
ของโลก เพื่อนำมาสู่หัวข้อการทำโครงงาน
P
(Project) คือ ขั้นต่อมาที่นักเรียนจะต้องใช้กระบวนการในการหาคำตอบให้กับหัวข้อโครงงานที่ตั้งไว้ เทคนิคที่นำมาใช้แบ่งเป็น 3
ส่วน ดังนี้
- Problem เป็นการระบุปัญหาหรือการตั้งคำถามสำหรับสิ่งที่ต้องการศึกษา
- Plan เป็นการวางแผนในการทำโครงงาน โดยมีการออกแบบโครงงาน การกำหนดขั้นตอนการทำโครงงาน ระยะเวลาในการทำโครงงาน รวมถึงการมอบหมายงาน เป็นต้น
- Problem เป็นการระบุปัญหาหรือการตั้งคำถามสำหรับสิ่งที่ต้องการศึกษา
- Plan เป็นการวางแผนในการทำโครงงาน โดยมีการออกแบบโครงงาน การกำหนดขั้นตอนการทำโครงงาน ระยะเวลาในการทำโครงงาน รวมถึงการมอบหมายงาน เป็นต้น
- Process เป็นกระบวนการที่นำมาใช้ในการทำโครงงาน
ได้แก่ สืบค้น(Research) สำรวจ(Survey) สัมภาษณ์ (Interview) สังเกต (Observe) เก็บรวบรวมข้อมูล (Data collection) วิเคราะห์
(Analysis) การสรุป (Conclusion) และการนำไปประยุกต์ใช้ (Apply)
P (Proud) คือ ขั้นสุดท้ายของการสร้างสรรค์ผลงานให้เกิดความภาคภูมิใจ เทคนิคที่นำมาใช้โดยนักเรียนจะมีการนำเสนอ
(Presentation) ผลงานของตนเองในรูปแบบต่างๆ มีการเผยแพร่ (Propagate) ผลงานในระดับต่างๆ
รวมทั้งการส่งผลงานเข้าร่วมประกวด/แข่งขัน ในระดับต่างๆ
การได้รับรางวัลจากการประกวด/แข่งขันนั้นแสดงถึงความเป็นโครงงานที่มีคุณภาพ (good quality)
ประสบความสำเร็จ (Triumphantly)
และเป็นที่ยอมรับ (Be accepted) ซึ่งส่งผลให้นักเรียนที่ทำโครงงานเกิดความภาคภูมิใจ
(Proud) ในตนเอง
เพื่อนนักเรียนเกิดความภาคภูมิใจ (Proud) ในสถาบัน ผู้ปกครองมีความภาคภูมิใจ (Proud) ในบุตรหลาน คนในชุมชนมีความภาคภูมิใจ (Proud) ต่อองค์กรการศึกษา
สรุปขั้นตอน
เทคนิค D-P-P สู่การจัดการเรียนรู้สู่โครงงาน
การสร้างผลงานให้เกิดความภาคภูมิใจของนักเรียน
ผู้ปกครอง โรงเรียน และชุมชนนั้น ครูเป็นเพียงผู้ชี้แนะแนวทางที่ครูได้จากการนำประสบการณ์การจัดกิจกรรมการสอนที่กลั่นกรองแล้วว่าเทคนิคD-P-P
ที่นำมาแนะนำให้นักเรียนใช้นั้นเป็นสิ่งที่เหมาะสม และนำมาพัฒนานักเรียนได้ โดยนักเรียน คือ สิ่งที่สำคัญที่สุดที่จะเป็นผู้นำเทคนิค D-P-Pไปใช้จนเกิดเป็นคุณลักษณะส่วนตัวของนักเรียนในการสร้างสรรค์ผลงานด้วยตนเอง
โดยนักเรียนต้องมีการฝึกฝนทักษะต่างๆ มีการทำซ้ำ มีการแก้ไขปัญหา ที่เกิดขึ้นขณะทำกิจกรรม มีความมุ่งมั่น
มานะ อดทน ไม่ย่อท้อต่อความยากลำบาก ซึ่งเป็นไปตามสมรรถนะลักษณะสำคัญของผู้เรียนตามที่หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน
พุทธศักราช 2551 ได้กำหนดไว้ ได้แก่ ความสามารถในการสื่อสาร . ความสามารถในการคิด ความสามารถในการแก้ปัญหา ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต และความสามารถในการใช้เทคโนโลยี สำหรับครู ที่ปรึกษาชุมนุมต้องทำหน้าที่ในการให้คำแนะนำ คำปรึกษา
ดูแลระบบการทำงานของนักเรียน อำนวยความสะดวกให้กับนักเรียนอย่างทั่วถึง
และมุ่งมั่นเช่นเดียวกับนักเรียน นอกจากนี้การได้รับ การสนับสนุนด้านงบประมาณ ความช่วยเหลือ
กำลังใจ และความรู้ จากผู้ปกครอง คณะครู บุคลากรในโรงเรียน ผู้บริหารสถานศึกษา
หน่วยงานบุคคลต่างๆในชุมชน
รวมถึงนักวิชาการที่สามารถให้ความรู้ระดับสูงกับนักเรียนก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ส่งผลให้การพัฒนากิจกรรมชุมนุมคิดเป็นเล่นสนุก
โดยใช้เทคนิค D-P-P
สู่การจัดการเรียนรู้สู่โครงงาน ได้ผลเป็นที่น่าพอใจ
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม : ครูดวงพรพรรณ เขตสาคร
กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ โรงเรียนเพรักษามาตาวิทยา จ.ระยอง
โทร : 038 651 971
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น